CHAPTER16
LET ME BE YOUR MAN
LET ME BE YOUR MAN
ภายในห้องที่เย็นเฉียบเพราะเครื่องปรับอากาศแต่ร่างกายกลับร้อนผ่าวเพราะแรงอารมณ์ของคนตรงหน้า
ในตอนนี้ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าเสียงหัวใจเต้นกับเสียงหอบหายใจอันไหนดังกว่ากัน
คนอายุมากกว่าผ่อนลมหายใจรดลงกับซอกคอขาวและใบหูเป็นระยะ
แบคฮยอนเกร็งไปทั้งตัวไม่กล้าแม้แต่จะคิดตามประโยคเมื่อครู่ว่าตนเองควรทำอย่างไรต่อ
ไม่รู้แม้แต่จะหยุดสายตาไว้ที่ไหนเพราะแบบนั้นเพดานสีขาวจึงเป็นที่ยึดสายตาพร่ามัวในตอนนี้
“อ่ะ! อื้ออ..”
ฝ่ามือเรียวทั้งสองข้างยกขึ้นมาตะปบปากตัวเองแทบไม่ทันเมื่อเผลอปล่อยเสียงน่าอายออกมาตอนปลายนิ้วซุกซนนั่นสะกิดผ่านยอดอก คนไม่ประสาถูกคนมีประสบการณ์เล่นงานจนจับความรู้สึกตอนนี้ไม่ได้
แบคฮยอนงับริมฝีปากแน่นเมื่อพี่ชานยอลวางร่างกายอ่อนปวกเปียกในอ้อมแขนลงบนผืนเตียงอย่างเบามือ สเวตเตอร์สีครีมตัวเก่งโดนคนมือไวถลกขึ้นมากองไว้ข้างบน เปลือกตาหลับปี๋แขม่วเกร็งหน้าท้องขณะลมหายใจอุ่นรินรดลงบนนั้น ซ้ำยังเผลอหายใจติดขัดเมื่อริมฝีปากของพี่ชานยอลประทับจูบลงไปซ้ำ ๆ
ริมฝีปากอุ่นจัดนั่นไล่ขึ้นมาจนถึงแผ่นอกก่อนมันจะเริ่มจู่โจมยอดอกสีสวยที่ลอยเด่นล่อตา
ริมฝีปากบางเม้มกันแน่นจนแทบช้ำเพราะไม่กล้าส่งเสียงออกมา
ปกติแค่อยู่ด้วยกันเฉย ๆ ยังควบคุมจังหวะหัวใจตัวเองไม่ได้
แต่ตอนนี้พี่ชานยอลกำลังจะทำให้หัวใจแบคฮยอนหลุดออกมาจากอกจริง ๆ แล้ว
ความอึดอัดและร้อนรุ่มในกายทำให้ร่างเล็กเริ่มอยู่ไม่สุข
แต่ก็ไม่กล้าตอบสนองความรู้สึกในตอนนี้และก็ไม่กล้าแม้แต่จะปฏิเสธความตระหนกที่เป็นอยู่
ทำยังไงดี แบคฮยอนไม่กล้าแม้แต่จะลืมตามองพี่ชานยอลด้วยซ้ำ
“อึก.. อ่ะ..”
ในหูได้ยินเพียงเสียงเฉอะแฉะของลิ้นที่กำลังกระหวัดอยู่บนยอดอก
ผ้าปูที่นอนสีเข้มถูกเรียวนิ้วขย้ำจนยับย่นใบหน้าคมพรมจูบลงไปหยุดอยู่กับหน้าท้องแบนราบ ท่อนแขนเล็กทั้งสองข้างรีบยกขึ้นมาปิดบังยอดอกที่ขึ้นสีจัดเพราะถูกรังแก
ริมฝีปากจิ้มลิ้มงับปลายนิ้วโป้งทั้งสองข้างพยายามกลั้นเสียงครางฮือที่เผลอหลุดดังออกมาอย่างห้ามไม่ได้
กางเกงขายาวถูกรูดออกจากปลายเท้าอย่างเบามือจนรู้สึกถึงไอเย็นของเครื่องปรับอากาศกระทบลงบนหน้าขา
ตอนนี้เหลือเพียงสเวตเตอร์ที่โดนถลกขึ้นไปเกยบนหน้าอกกับอันเดอร์แวร์ชิ้นเล็กปกปิดร่างกายคนตัวจ้อยอยู่
เรียวขาทั้งสองข้างยกขึ้นตั้งก่อนจะเบียดเข้าหากันเพราะกระดากอายสายตาที่มองอยู่ สายตาร้อนแรงที่เหมือนจะทำให้แบคฮยอนละลายหายไปกับผืนเตียง เชิ้ตสีดำที่อยู่บนร่างกำยำถูกเจ้าของปลดกระดุมออกจนหมดกระทั่งมันถูกถอดออกจากลำตัวโชว์มัดกล้ามแน่นและกล้ามหน้าท้องที่เกร็งจนขึ้นเป็นลูก
ชานยอลรู้สึกถึงเส้นความอึดอัดจนเส้นเลือดปูนโปนขึ้นมาตามท่อนแขนหน้าท้องรวมถึงส่วนต่าง
ๆ ของร่างกาย ไล่สายตามองจากปลายเท้าถึงเรียวขาขาวตรงหน้ากระทั่งไปหยุดอยู่ที่ใบหน้าใสที่ตอนนี้เห่อแดงไปทั้งหน้าจนดูน่าสงสาร
ดวงตาฉ่ำน้ำเหมือนกำลังจะร้องไห้ปรือขึ้นมองมาที่เขา
ริมฝีปากเยลลี่ขบอยู่บนปลายนิ้วโป้งตัวเองทั้งสองข้าง
ความไร้เดียงสาพ่วงมากับความน่ารังแกของเจ้าตัวที่เป็นอยู่ยิ่งทำให้ไฟอารมณ์ชานยอลลุกโชนจนเหมือนจะหยุดตัวเองไว้ที่ความอ่อนโยนไม่ได้
“พ..พี่ชานยอล”
แบคฮยอนอึกอักหันหน้าลงซบกับหมอนอย่างขลาดอาย เรียวขาถูกดันออกจากกันก่อนร่างกำยำของพี่ชานยอลจะแทรกเข้ามาอยู่ตรงกลาง
คนตัวโตกว่าก้มลงมาสูดดมกลิ่นหอมหวานจากซอกคอขาวลากปลายลิ้นและริมฝีปากขบเม้มเบา ๆ
ด้วยความมันเขี้ยว
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วจนน่ากลัวเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้ายังนั่งคุยกันดี
ๆ อยู่เลย แต่ตอนนี้แบคฮยอนกลับอยู่ในสภาพน่าอายจนไม่กล้ามองตัวเอง
ชานยอลชะงักเมื่อเห็นเรียวขาแบคฮยอนสั่นระริกในตอนที่อันเดอร์แวร์ตัวจิ๋วกำลังจะถูกรูดออกมาจากปลายเท้า แผ่นอกบางสะท้อนขึ้นลงเหมือนคนหอบจัดเพราะวิ่งทางไกลเสียงครางฮือและใบหน้าหวานของเจ้าตัวแสดงความตระหนกชัดเจน
“ต้นอ่อน”
“...”
“กลัวเหรอ”
แบคฮยอนพยักหน้าหงึกตามความรู้สึก
ชานยอลกลืนน้ำลายลงคอเมื่อพึ่งนึกได้ว่าเมื่อครู่ตัวเองตกอยู่ในภวังค์จนลืมห่วงความรู้สึกแบคฮยอน
เปลือกตาปิดลงข่มใจแผ่นอกแน่นกล้ามสะท้อนหอบ พรูลมหายใจออกช้า ๆ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ
เพื่อสงบสติอารมณ์ที่กำลังคลุกกรุ่น
ค่อย ๆ แกะกำมือเล็กออกมาจากการกัดนิ้วตัวเองกลั้นเสียงคราง
เลื่อนปลายนิ้วโป้งคลึงริมฝีปากจิ้มลิ้มที่ก่อนหน้าเม้มกันแน่นจนแช้ำคาปาก
พี่ชานยอลลูบหัวทุยของเด็กขี้อายที่ไม่กล้าแม้แต่จะสบตาเขาในขณะนี้
“ไหวไหม”
“อึก.. หัวใจเราจะหลุดออกมาอยู่แล้ว” ยกมือขึ้นปิดใบหน้าแดงซ่านแล้วบอกเสียงอ้อมแอ้ม “ปิดไฟได้ไหมคับ เราอาย...”
ตอนได้สติมองเห็นหน้าแบคฮยอนใจหล่นวูบไปแล้วเพราะคิดว่าจะทำอีกคนกลัวจนไม่ให้เข้าใกล้อีก ปลายนิ้วโป้งคลึงริมฝีปากเยลลี่อย่างเอ็นดูชานยอลหลุดหัวเราะหึในลำคอเพราะเสียงสั่น ๆ ที่ละล่ำละลักบอกทั้ง ๆ ที่ในหัวชานยอลคิดว่าแบคฮยอนจะปฏิเสธหรือร้องไห้เพื่อบอกให้คนโตกว่าถอยออกไป
ตอนได้สติมองเห็นหน้าแบคฮยอนใจหล่นวูบไปแล้วเพราะคิดว่าจะทำอีกคนกลัวจนไม่ให้เข้าใกล้อีก ปลายนิ้วโป้งคลึงริมฝีปากเยลลี่อย่างเอ็นดูชานยอลหลุดหัวเราะหึในลำคอเพราะเสียงสั่น ๆ ที่ละล่ำละลักบอกทั้ง ๆ ที่ในหัวชานยอลคิดว่าแบคฮยอนจะปฏิเสธหรือร้องไห้เพื่อบอกให้คนโตกว่าถอยออกไป
“อายทำไมครับ ตอนนี้มีแค่พี่ที่เห็น”
แล้วแบคฮยอนจะบอกยังไงดีว่าที่อายก็เพราะสายตาพี่ชานยอลนั่นแหละ..
“พี่อยากเห็นหน้าเรา” คำตอบปฏิเสธมาพร้อมลมหายใจอุ่นรินรดลงกับใบหู
จงใจงับมันเบา ๆ ให้คนใต้ร่างขนลุกซู่จนต้องจิกมือลงกับท่อนแขน
ท่อนกายเล็กที่แสดงอารมณ์ถูกมือคนขี้แกล้งรูดรั้งจนต้องรีบยกมือมาปิดปากปิดหน้าตัวเอง
ซึ่งมันควรจะเป็นแบบนั้นถ้าไมติดว่าถูกคนมือไวคว้ามันไว้ทันก่อนจะรวบข้อมือทั้งสองข้างขึ้นไปไว้เหนือหัว
“อ๊ะ..!!” เสียงครางน่ารักหลุดออกมาเป็นระรอกเมื่อ จังหวะปรนเปรอเปลี่ยนเป็นเร็วขึ้น
“อยากได้ยินเสียงเราด้วย”
รอยยิ้มมุมปากแบบนี้คืออะไรกัน
พี่ชานยอลกะจะไม่ให้แบคฮยอนมีชีวิตรอดแล้วหรือยังไง
สายตาจับจ้องเด็กน้อยตรงหน้าที่ทำให้เขายอมอดทนมาได้นานขนาดนี้
ก่อนหน้านี้ชานยอลบอกตัวเองเสมอว่าห้ามทำเกินเลยกับน้องมากกว่านั้นถ้าหากยังไม่ได้เป็นอะไรกัน
แต่วันนี้ในวันที่สถานะเปลี่ยนความคิดถึงตลอดทั้งเดือนและความน่ารักของเจ้าตัวก็ทำให้เส้นความอดทนขาดสะบั้นลงจนมาลงเอยแบบนี้
ชานยอลพอดูออกว่าตอนนี้ต้นอ่อนรู้สึกกลัวแล้วก็ไม่มั่นใจแต่ถ้าหากแบคฮยอนไม่พร้อมแล้วปฏิเสธด้วยการดันเขาออกไปชานยอลก็พร้อมที่ตัดไฟที่กำลังลุกโชนอยู่แล้วลุกออกไป
กลับกันในตอนนี้ทั้งคู่สบตากันแล้วปล่อยให้ร่างกายทำตามความรู้สึก
ริมฝีปากบดเบียดเข้าหากันเรียวลิ้นตวัดเกี่ยวพันลิ้นเล็กแสนไร้เดียงสาจนได้ยินเสียงครางอื้ออึงในลำคอและเฉอะแฉะน่าอาย
ชานยอลผละออกก่อนจะปล่อยข้อมือคนใต้ร่างให้เป็นอิสระแล้วร่นตัวลงไปอยู่กลางระหว่างขายังไม่ทันที่เด็กน้อยจะได้สงสัยอะไรต่อ
ใบหน้าคมก็โน้มลงมาก่อนจะกดจูบลงบนโคนขนอ่อนด้านในจงใจกดริมฝีปากลงบนนั้นออกแรงดูดดึงเบา
ๆ กระทั่งเจ้าของเรียวขาในมือสั่นระริก
“อื้อ!”
ชานยอลเลียริมฝีปากมองรอยจ้ำสีกุหลาบตัดกับผิวขาวที่ปรากฏขึ้นบนโคนขาด้านในเพราะฝีมือตัวเอง
ร่างบางผวาเฮือกครางเสียงหวานตอนที่ริมฝีปากคู่เดิมเริ่มจู่โจมที่ช่องทางสีสวยล่อตา ริมฝีปากจิ้มลิ้มอ้าหอบครางหนักเอวคอดลอยขึ้นจากผืนเตียงเพราะสัมผัสจากปลายลิ้นที่กำลังเล่นงานแบคฮยอนเหมือนรู้ทุกจุดอ่อน
“พ.. พี่ชานยอล ฮื้อ! ไม่เอา.. อ๊ะ!..”
เรียวขาหนีบเข้าหากันจนคนขี้แกล้งต้องดันต้นขาออกกว้าง
มือเรียวยกมาดันหัวเขาให้ออกจากหว่างขาแต่เรี่ยวแรงของเด็กที่กำลังหอบครางจนตัวโยนมีหรือจะต้านแรงเขาไหว
แบคฮยอนโดนคนขี้แกล้งเล่นงานหนักกว่าจะยอมผละริมฝีปากออกไปให้ได้หายใจ
แต่ยังไม่ทันได้หายหอบดีก็ต้องผวาครางฮือในลำคอเมื่อมีบางอย่างกำลังบดคลึงอยู่ที่ช่องทางอ่อนไหวแบคฮยอนพยายามบีบขาเข้าหากันในตอนที่เรียวนิ้วยาวลุกล้ำเข้ามาภายในร่างกาย
“อื้อ.. พ..พี่ขานยอล.. เรา--” เด็กน้อยที่ไม่เคยผ่านมาแม้กระทั้งนิ้วหอบหายใจหนักด้วยความตระหนก
มองคนใต้ร่างที่เบ้หน้าอย่างอึดอัดชานยอลเลียริมฝีปากที่แห้งผากเมื่อรับรู้ถึงความคับแน่นภายในที่บีบรัดตอนที่เรียวนิ้วยาวนิ้วแรกค่อย
ๆ ดันเข้าไปจนสุด
“ผ่อนคลายนะ” เสียงอึกอักดังเป็นระยะขณะที่นิ้วที่สองดันเข้ามาตามชานยอลขยับข้อมือเข้าออกช้า
ๆ เพื่อเปิดทาง
“อึก.. ระ เราต้อง..ทำยังไง..”
“อย่าเกร็ง.. อ่า.. แบบนั้น..” พรมจูบลงบนหน้าผากและขมับชื้นเหงื่อปลอบประโลมคนใต้ร่างที่ก่อนหน้าเกร็งจนตัวแข็งทื่อแต่ก็ยังยอมตำตามที่เขาบอกอย่างน่ารัก
ชานยอลสอดดันเข้าไปครบทั้งสามนิ้วขยับเข้าออกเนิบนาบให้เอวคอดได้บิดเกร็งไปกับจังหวะกระแทก
ภายในช่องทางอ่อนนุ่มร้อนจนเขาคิดว่าจะทนมองแบคฮยอนในสภาพยั่วยวนแบบนี้ต่อไปไม่ไหว
เรียวนิ้วทั้งสามถูกถอนออกไปแล้วตอนนี้แบคฮยอนได้ยินเสียงหัวเข็มขัดที่กำลังโดนปลดออก
คนตัวเล็กนอนหอบตาปรือเขาเห็นว่าพี่ชานยอลไม่ได้ถอดกางเกงออกเพียงแค่ปลดซิปแล้วดึงหัวกางเกงลงจนเห็นอันเดอร์แวร์สีเข้ม
ท่อนเนื้อขนาดสมเป็นชายขยายใหญ่ดีดผึงออกมาในตอนที่ขอบอันเดอร์แวร์ถูกรั้งลง
เพียงแค่เห็นขนาดของมันคนตัวจ้อยก็กัดริมฝีปากหุบขาฉับหนีบเข้ากับเอวสอบ
แค่พี่ขานยอลแตะมือลงกับเข่าร่างกายก็สั่นเทิ้มเสียแล้วแบคฮยอนเลิ่กลั่กมองใบหน้าหล่อจัดที่ตอนนี้แสดงสีหน้าออกมาถึงความกังวลจนคิ้วเข้มขมวดวุ่น
“อยากให้พี่หยุดรึเปล่า?”
แบคฮยอนไม่ได้ใสซื่อขนาดที่ไม่รู้ว่านี่คือการแสดงความรักด้วยร่างกายแต่แบคฮยอนจะทำให้พี่ชานยอลมีความสุขได้จริงหรือนั่นคือสิ่งที่คิดวนอยู่ในหัว
พี่ชานยอลจะมีความสุขเพราะร่างกายแบคฮยอนใช่หรือเปล่า?
คนตัวเล็กกัดริมฝีปากแน่นก่อนจะส่ายหน้าไปมา ..ยอมหมดทุกอย่างแล้ว
เพราะว่าคนตรงหน้าเป็นพี่ชานยอลแบคฮยอนถึงได้ยอมให้ไปหมดทุกอย่างเลย..
ชานยอลยิ้มแล้วก้มลงไปกดจูบข้างขมับชื้นมือหนาจับท่อนเนื้อขนาดใหญ่ถูไปมากับปากช่องทางคับแน่นสลับกับลอบมองแบคฮยอนที่ดูตื่นกลัวว่าเจ้าตัวจะรับมันไหวหรือเปล่า
แต่ความต้องการก็ทำให้ตัดสินใจค่อย ๆ ดันส่วนหัวเข้าไป
ความคับแน่นนั่นดูเหมือนจะเข้ากันไม่ได้ ชานยอลดึงออกก่อนจะดันเข้าไปใหม่ซ้ำ
ๆ กระทั่งส่วนหัวหายเข้าไป
“อึก.. จ..เจ็บ”
“อา..”
ชานยอลพรูลมหายใจออกมาเมื่อรับรู้ได้ความอุ่นร้อนและคับแน่นที่เกือบทำลายความอ่อนโยนที่ควรจะเป็น
คนบนร่างกัดฟันแน่นสะกัดกลั้นอารมณ์เพราะครั้งแรกของแบคฮยอนมันไม่ควรจะเป็นฝันร้าย
แต่เพียงแค่แรกเริ่มแบคฮยอนก็รู้สึกเหมือนร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ
ชานยอลขมวดคิ้วอย่างเป็นกังวลเขาดันเข้าไปเพียงครึ่งก็ขยับต่อไม่ได้คนใต้ร่างบอกเสียงติดขัด “พี่ชานยอล.. เรา.. อึดอัด..”
“ผ่อนคลายนะ.. ครับ.. แบบนั้น.. เด็กดี” ใบหน้าหวานเหยเกแก้มใสขึ้นสีแดงจัดหน้าผากและขมับชื้นไปด้วยเหงื่อจนต้องโน้มลงไปพรมจูบปลอบเด็กน้อย
ในตอนร้องว่าเจ็บหยดน้ำตากลิ้งออกจากหางตาที่หลับแน่นทำให้ตอนนี้แพขนตาเปียกน้ำสีใสจนอดไม่ได้ที่ปาดออกให้แล้วก้มลงกระซิบขอโทษซ้ำ
ๆ แบคฮยอนไม่ได้เจ็บจนทนไม่ได้แต่มันเป็นความเจ็บปนตกใจด้วยที่ไม่เคยเจอความรู้สึกแบบนี้
เส้นเลือดตรงขมับบวมเป่งสันกรามนูนชัดเพราะการกัดฟันกลั้นไฟในกายที่โหมกระพือ
อยากกระทั้นเข้าไปเพื่อรับความรู้สึกข้างในแต่ความเป็นห่วงมีมากกว่าสิ่งใดชานยอลถึงได้แช่กายไว้เพื่อให้แบคฮยอนปรับสภาพและคุ้นชินกับสิ่งแปลกปลอม
“ฮะ.. อ๊า!”
“อา..”
เสียงครางหวานและเสียงคำรามแหบพร่าราวกับสัตว์ป่าดังออกมาเมื่อท่อนเนื้อถูกดันเข้าไปได้จนหมด
แบคฮยอนยกมือขึ้นปิดหน้ากัดริมฝีปากจนห้อเลือดเพราะไม่อยากส่งเสียงน่าอายออกมาอีก
และก็เป็นอีกครั้งที่พี่ชานยอลรวบข้อมือทั้งสองข้างขึ้นไปไว้เหนือหัวกันเด็กขี้เขินเอามือปิดหน้าปิดปากเพราะตอนนี้การสบตากันซึมซับความรู้สึกคงดีกว่าเป็นไหน
ๆ ชานยอลก้มลงคลอเคลียอยู่ข้างแก้มเสียงแหบพร่ากระซิบบอก
"อย่ากัดปากครับคนเก่ง ช้ำหมดแล้ว"
คนใต้ร่างพยายามทำความคุ้นชินอย่างที่พี่ชานยอลบอกความเจ็บปวดที่เคยมีแปรสภาพเป็นความเสียวซ่านที่ไม่เคยรู้ว่ามันทำให้รู้สึกได้ขนาดนี้
แบคฮยอนรู้แค่ว่าตอนนี้พี่ชานยอลสัมผัสตรงไหนก็รู้สึกดีไปหมดจนอยากหยิกตัวเองที่อยากให้ฝ่ามือหนาสัมผัสอีกซ้ำ
ๆ เห็นไหมว่าความคิดแบคฮยอนกำลังจะเหมือนคนลามก..
จังหวะเนิบนาบค่อยเป็นค่อยไปจนคนใต้ร่างยอมผ่อนคลายครางอื้ออึงในลำคอ
แบคฮยอนหันหน้าซบลงกับหมอนใบนุ่มร่างกายสั่นไหวไปตามแรงชักนำของคนข้างบน คนอายุมากกว่าก้มลงไปตวัดลิ้นแกล้งยอดอกสีสวยที่ขึ้นสีลอยเด่นอยู่บนแผ่นอกขาว
เห็นทีท่าว่าต้นอ่อนจะเคยชินกับสัมผัสแล้วแรงกระทั้นถึงถึงได้เพิ่มความเร็วขึ้นจนร่างจ้อยสั่นคลอนเอวคอดบิดเร่าตามความรู้สึกอย่างไม่รู้ตัว
“อ๊า!”
และทุกครั้งที่แบคฮยอนพยายามกัดปากกลั้นเสียงครางสะโพกสอบก็จะย้ำลงมาเหมือนแกล้งให้เขาหลุดเสียงน่าอายออกมาจนได้
ร่างกายกำยำเป็นแรงขับเคลื่อนให้ร่างเล็กต่างไซส์ไถลไปตามแรงกระแทก ผิวกายเนียนละเอียดและร่างกายขาวจัดตัดกับผ้าปูที่นอนสีเข้มยิ่งขลับให้อีกคนดูน่ารังแกมากขึ้นเป็นเท่าตัว
ในตอนนี้ที่ชานยอลคร่อมอีกคนอยู่เห็นได้ชัดว่าสองร่างนั้นขนาดและสัดส่วนต่างกันแค่ไหนแค่เพียงแค่ร่างกายกำยำก้มลงมาก็บังคนใต้ร่างได้มิดเสียแล้ว
ส่งเสียงครางสั่นเบิกตาขึ้นเพราะส่วนปลายความใหญ่โตนั่นกระทบกับจุดกระสันที่ทำให้แบคฮยอนตัวอ่อนปวกเปียก
“ตรงนี้เหรอ”
“อื้อ! อ๊า! ..อ่ะ”
เพียงแค่ชานยอลกระแทกย้ำไปโดนจุดเร้าข้างในท่อนกายน่ารักของคนไม่ประสาก็ปลดปล่อยออกมาบนหน้าท้องของเจ้าตัวทั้ง
ๆ ที่เขายังไม่ได้สัมผัสมัน
มุมปากยกยิ้มอย่างเอ็นดูก่อนจะเลียริมฝีปากกับภาพตรงหน้ามือหนาที่ว่างอีกข้างยกมายึดเอวคอดไว้กระแทกกระทั้นหนักแน่นจนร่างเล็กสั่นคลอนเขยื้อนไปบนผืนเตียง
ชานยอลยอมปล่อยข้อมือเล็กทั้งสองข้างที่โดนล็อคไว้เหนือหัวเปลี่ยนเป็นจับมาวางไว้บนบ่ากว้างวงแขนเล็กเลื่อนมาโอบรอบคออัตโนมัติแบคฮยอนกอดรอบลำคอเขาแน่นอย่างหาที่พึ่งใบหน้าหวานซบลงกับหัวไหล่แข็งแรง
“อ๊ะ.. ฮะ.. อ๊า!”
ความต้องการที่ตอนแรกมีเพียงสิบแต่ตอนนี้สูงทะลุเพดานไปแล้วเพราะเสียงหวานที่ครางติดขัดอยู่ข้างหูชานยอล
แบคฮยอนไม่ได้ตั้งใจจะยั่วเขารู้แต่ที่แบคฮยอนไม่รู้คือเสียงอีกคนมันทำให้ท่อนกายเขาขยายสู้จนชานยอลปวดหนึบไปหมดและคนที่ต้องรองรับมันก็คือแบคฮยอนเอง
เพียงแค่หันมาสบตากันริมฝีปากก็เคลื่อนหากันอัตโนมัติชานยอลสอดลิ้นเข้าไปตักตวงความหวานจากแบคฮยอนอย่างไม่รู้จักพอ
ยิ่งได้สัมผัสก็ยิ่งอยากสัมผัสมากขึ้นไปอีกจนหาความพอดีไม่ได้
แบคฮยอนทำอะไรกับความรู้สึกชานยอลกัน?
ในหูแบคฮยอนได้ยินเจ้าของเสียงทุ้มแหบพร่าหอบหายใจชวนเขินกับเสียงกระทบร่างกายที่ดูหยาบโลน
ในหัวก็กลายเป็นสีขาวโพลนไปหมดเมื่อจุดสูงสุดของอารมณ์กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง
“ฮะ อ๊า!”
ใบหน้าหวานสะบัดออกมาครางปลายนิ้วเรียวจิกเกร็งลงบนแผ่นหลังแน่นกล้าม
ชานยอลรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของแบคฮยอนที่ตอดแน่นจนต้องกระแทกกระทั้นหนัก ๆ
ในห้วงอารมณ์สุดท้ายก่อนจะปลดปล่อยทุกหยาดหยดของความอดทนเข้าไปในร่างกายที่เขาแสนหวงแหน
สูดดมกลิ่นฟีโรโมนจากซอกคอขาวไล่ขึ้นไปบนขมับชื้นหน้าผากขาวพวงแก้มที่แดงซ่านก่อนจะหยุดที่ริมฝีปากจิ้มลิ้มที่กำลังเผยอหอบครางนั่น
จากตอนแรกที่ริมฝีปากบางนั่นช้ำเพราะขบกัดเองแต่ตอนนี้มันกลับบวมช้ำเพราะริมฝีปากหนาที่บดจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ห่วงแทบตายแต่สุดท้ายก็เป็นคนทำน้องช้ำไปทั้งตัวเสียเองจะโทษแบคฮยอนที่ขยันทำตัวน่ารักก็ไม่ได้เพราะสุดท้ายมันก็คือความยั้งใจไม่อยู่และไม่รู้จักพอของเขาเอง
“แฮ่ก.. อ่ะ”
“รัก”
กระซิบบอกความรู้สึกที่รู้สึกตอนนี้ในขณะที่คนตัวจ้อยยังคงหอบหายใจชานยอลนอนซบลงกับแผ่นอกบางอยู่นานฟังเสียงหัวใจที่เต้นระรัวของคนใต้ร่างกระทั่งคนตัวจ้อยและตัวเองสงบลง
“เจ็บมากไหม ไหวรึ---” ร่างหนาผละออกนั่งบนเข่าท่อนเนื้อที่กำลังจะถูกดึงออกชะงักพร้อมกับคำถามที่ถามไม่จบประโยค
ท่อนแขนเล็กยกขึ้นมาขอความอบอุ่นจากคนตรงหน้าใบหน้าใสแดงซ่านดวงตาปรือจากความเพลียเมื่อครู่ริมฝีปากจิ้มลิ้มกำลังเผยอขึ้นไหนจะเสียงครางหวานที่ชานยอลได้ยินมาทั้งชั่วโมง
“พี่ชานยอล..”
“ครับ”
“กอดหน่อยคับ..”
“อ้อนเหรอ”
“อ่ะ!” แบคฮยอนสะดุ้งหลับตาปี๋เมื่ออยู่ดี
ๆ การขอกอดทำให้ท่อนกายแข็งขืนที่ไม่ยอมสงบลงก็กระทั้นเข้ามาอีกจนร่างกายสั่นคลอน “เรา--!!!”
“พี่บอกแล้ว”
“มะ— ฮึก.. อื้อ!”
“ว่าพี่ต้องการเรามากกว่าที่เราคิดอีก”
70%
TALK
เรียบร้อยโรงเรียนพี่ชานยอลที่แท้
เอาล่ะค่ะ ถึงเวลาไหว้ทีมคุณแม่อย่างจริงจัง ;-;
จริง ๆ จะอัพตั้งแต่ 2 วันที่แล้วแต่ด้วยความที่ไม่ได้เขียนฉากคัทนานมาก
เราเลยงง ๆ ตัวเองนิดหน่อย งกๆ เงิ่นๆ ไปต่อไม่ถูก ._.
เป็นฉากคัทที่ยาวมากที่สุดที่เคยเขียนเลยมั้ง ความยาวเกือบเท่าทั้งตอนที่แล้ว 555555555
ถ้ามันไม่ดีเท่าที่คาดหวังก็ขอโทษด้วยนะคะ ฮือ
ส่วนความรู้สึกของทั้งคู่เราไม่รู้ว่าทุกคนจะเข้าใจที่เราสื่อไหม
แต่ถ้าอันไหนเราเขียนวน ๆ งง ๆ บอกได้เลยนะคะ
ขอบคุณฟีดแบคจากตอนที่แล้วนะคะ แม้เราจะหายไปนานมากทุกคนก็ยังน่ารักเสมอ ๆ
มีแรงฮึดขึ้นเยอะเลย ขอบคุณที่ยังติดตามนะคะ รัก (โป้งชี้ก้อย)
เหมือนเดิมฮับ ช่วงท้ายก็มาขอกำลังใจเหมือนเดิม
วาร์ปมาบล็อคแล้วขี้เกียจกลับไปเม้นต์เด็กดีก็ไปหวีดกันได้ที่แท็ก #อดนรล เบยน้า ><
เราจาไปรอที่แท็กอย่างมีฟามหวัง ฮุก