วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2563

[SF] - turn off the lights. : 01





turn off the lights.





บยอน แบคฮยอนชายหนุ่มรูปร่างผอมบางเจ้าของฉายาคุณชายเรื่องเยอะของกลุ่มกำลังแสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์ เรียวขาที่ถูกสวมด้วยกางเกงเข้ารูปสีดำไขว้ห้างกระดิกปลายเท้าไปมาเพื่อบอกให้รู้ว่าเขาไม่พอใจ

ไม่พอใจมาก ๆ!
ทำไมเพื่อนเขาต้องชวนไอ้คนขี้เต๊ะนี่มานั่งด้วย!!
ชวนไม่ถามเจ้าของวันเกิดสักคำ!!!

ชนนนนนน
เสียงเฮลั่นก่อนทุกจากตาจะจับจ้องมาที่เขาเพื่อให้เจ้าของวันเกิดเป็นคนเปิด แบคฮยอนยกแก้วขึ้นกระดกรวดเดียวก่อนทุกคนจะยกขึ้นกระดกตาม ยกเว้นผู้ชายตัวโตคนนั้นที่กำลังมองเขาไม่วางตา
“นี่มึงเมายังวะ ตัวแดงน่ากลัวฉิบ
ไม่
แบคฮยอนกระดกไปอีกแก้วทั้ง ๆ ที่ไม่ได้คิดอยากจะเมา เหมือนเขาแค่ต้องการหาทางหลบสายตาผู้ชายคนนั้นมากกว่า
ก็เข้าใจว่าเมื่อก่อนก๊วนเพื่อนเขาและผู้ชายคนนี้ก็คุยกันถูกคอและสนิทกันในระดับหนึ่ง แต่ไม่คิดว่ามันจะมีมารยาทกันขนาดชวนแฟนเก่าเพื่อนที่บังเอิญเจอกันในร้านเหล้าให้มานั่งด้วย
มึงเป็นไรเนี่ยจงอินเอาศอกจิ้มเอวเพื่อนตัวเล็กที่เอาแต่ทำท่าทางฟึดฟัดจิ๊ปากไม่หยุด
เปล่า
เปล่าก็แย่ละ หน้าหงิกเป็นตูด
ไม่ต้องมายุ่งเลย เพราะพวกมึงนั่นแหละ!”
คิมจงอินชี้หน้าตัวเองก่อนคนหัวเสียจะยกแก้วเพื่อนขึ้นกระดกแล้วลุกขึ้นเดินเร็ว ๆ ไปทางห้องน้ำ ร่างเล็กเลือกเข้าห้องในสุดก่อนจะยีหัวตัวเองไปมาระหว่างนึกถึงใบหน้ากวนตีนที่เอาแต่เหลือบตามองแล้วยิ้มมุมปากให้เขา
ปาร์ค ชานยอลแฟนคนแรกตั้งแต่สมัยมัธยมที่เลิกกันด้วยเหตุผลงี่เง่า แต่เอาความจริงมันก็เกิดจากเขาเองนั่นแหละก็ไอ้บ้านี่เอาแต่เล่นบาสชวนไปไหนก็ไม่ว่างเพราะเล่นบาสไม่ก็เข้าชมรม
ด้วยความที่ยังเด็กเลยเผลอประชดประชันด้วยการบอกว่า ถ้าจะไม่มีเวลาให้แบบนี้ก็เลิกกันไปเลยไป

แล้วใครจะไปรู้ว่ามันจะไม่ง้อ!

หลังจากนั้นไอ้บ้านั่นก็หายสาบสูญไปจากวงโคจร คงจะไปกกอยู่กับบาสเหมือนที่เคยเป็นนั่นแหละ ส่วนแบคฮยอนไม่ได้หลบหน้าแต่เขาแค่หลีกเลี่ยงการไปสถานที่ที่อีกคนจะอยู่แค่นั้นเอง
หลังจากจบมัธยมการเจอกันล่าสุดคงเป็นแค่วันจบการศึกษาที่แค่ได้มองหน้ากันเพียงไม่กี่วินาทีก่อนจะแยกกันขึ้นรับใบประกาศและหายจากกันไปจนถึงตอนนี้..
เขาพอจะรู้ข่าวคราวมาบ้างว่าอีกคนกำลังจะกลายเป็นครูพละเต็มตัวหลังจากจบปีการศึกษานี้ แต่ก็ไม่แปลกใจนักเพราะตลอดเวลาที่เคยรู้จักกันชานยอลก็บ้าและเก่งทุกอย่างที่เป็นกีฬาอยู่แล้ว

ก๊อก ก๊อก

สงบสติอารมณ์ตัวเองในห้องน้ำพักใหญ่ เสียงเคาะประตูห้องน้ำเบา ๆ เรียกความสนใจจากคนฟุ้งซ่านให้เงยหน้ามามอง ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะเมาแต่หลังจากที่บ้าบิ่นยกซดไปหลายแก้วก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าไม่มึน
แบคฮยอนเปิดประตูพรวดเพราะคิดว่าจะเป็นไอ้จงอินหรือไม่ก็เพื่อนสักคนในกลุ่มที่เดินมาตามเขา
แต่ผิดคาด

พลั่ก

ร่างสูงใหญ่ดันประตูก่อนจะเบียดเข้ามาในห้องน้ำแคบ ๆ แล้วล็อคกลอนลงทันที คนตัวเล็กเบิกตากว้างเพราะไอ้คนที่ทำเขาฟุ้งซ่านกำลังยืนประจันหน้ากันอยู่
บรรยากาศอึดอัดที่กระจายตัวโดยรอบ รอบตัวแบคฮยอนน่ะ เพราะคนที่เสนอหน้าเข้ามาไม่ได้รู้สึกอะไรสักนิดแถมยังยิ้มแล้วเลิกคิ้วมองเขาอีก
เข้ามาทำไม
หนีหน้าเหรอ
ทำไมต้องหนีด้วย
เหรอ ถ้าไม่หนีก็เงยหน้ามามองกันหน่อยดิปลายนิ้วเชยคางอีกคนขึ้นก่อนจะถูกปัดออกไป พร้อมใบหน้าหวานที่เขาชอบนักหนาที่ง้ำงออย่างไม่พอใจ
ไม่ต้องยุ่งได้ป่ะ
ไม่ได้ ปาร์ค ชานยอลดันร่างอีกคนชิดฝาผนัง มือแกร่งถือวิสาสะจับเอวคอดแต่อีกคนก็ไม่ได้ยังพยายามจะแกะมือปลาหมึกนี่ออกให้ได้แม้แรงที่มีจะไม่ถึงครึ่งของอีกคน เข้ามาหาขนาดนี้ก็ต้องอยากยุ่งแล้ว
ปาร์ค ชานยอล
โอ้ะ ยังจำกันได้นี่นา ใบหน้าคมโน้มหน้าลงไปจนริมฝีปากชิดใบหู เสียงตอนเรียกชื่อน่าฟังชะมัด
นี่!”
คนโดนแกล้งเม้มริมฝีปากแน่นยกมือขึ้นเหมือนจะฟาดอีกคนเต็มแรงให้หายหงุดหงิดแต่สุดท้ายก็ยั้งมือก่อนจะแสดงท่าทางฟึดฟัด
กลัวเจ็บเหรอ?
หลงตัวเอง!”
หลงตัวเองที่ไหน หลงคุณต่างหาก
“…” สรรพนามเดิม ๆ ที่อีกคนเคยเรียกจนเขาเขินม้วนในตอนนั้นถูกนำกลับมาใช้ คนที่เอาแต่ต่อต้านเงียบลงแต่นัยน์ตายังเผยความไม่พอใจ

เล่นไม้นี้ก็ไม่ยอมแพ้ให้หรอกนะชานยอล

เขิน?
เพ้อเจ้อ
ใจร้ายจัง ไม่คิดถึงกันหน่อยเหรอ
ไม่
สุขสันต์วันเกิดนะ
ขอบใจ แต่ไม่ต้อง
เจ็บหัวใจชะมัด
ตลกนักหรือไง ทำไมต้องมาวุ่นวายด้วย
เปล่า แค่คิดถึงคุณ
ตอแหล

ผ่านมาตั้งกี่ปี
พึ่งจะมาคิดถึงกันหรือยังไง
คนโกหก

พูดจริง ๆ
ถอย จะออกไปแล้ว
ไม่ให้ไป
นี่--”
เสียงใสขาดห้วงดวงตาเบิกกว้างแทบถลนอกมาเมื่อมือหนาทั้งสองข้างทาบเข้าที่แก้มเขาก่อนจะโน้มใบหน้าลงทาบริมฝีปากที่ส่วนเดียวกัน
จงใจบีบปลายคางเพื่อทำให้เขายอมเผยอริมฝีปากให้ตัวเองสอดลิ้นเข้ามาจนได้ คนที่ช่ำชองตวัดไล่ต้อนเรียวลิ้นเล็กที่ยังคงอึกอักอยู่ คนตัวเล็กส่งเสียงอื้ออึงยกมือขึ้นจับไหล่อีกคนเพื่อพยุงร่างกาย
แอลกอฮอร์ในร่างกายทั้งคู่พลุ่งพล่านจนเกินจะยั้งตัวเอง แม้ในใจจะเอาแต่ต่อต้านคนตรงหน้าแต่ร่างกายที่รู้จักกันดีกลับตอบสนองอีกคนทุกอย่าง
ร่างสูงใหญ่ขยับแนบชิดบนเบียดจนแบคฮยอนแทบจะกลืนไปกับผนังอยู่แล้ว ริมฝีปากคู่เดิมอุ่นเหือนเดิมและกำลังทำให้เขา รู้สึก.. เหมือนเดิม...

พลั่ก!

แบคฮยอนผลักอีกคนออกสุดแรงหลังจากได้สติคนตัวเล็กหอบเบา ๆ หลังโดนอีกคนพรากลมหายใจ คนตั้งใจจะกวนใช้ปลายนิ้วโป้งปาดน้ำสีใสที่มุมปากก่อนจะเอามาแตะที่ลิ้นตัวเอง
ปากหวานชะมัด
...
เงียบนี่แปลว่าเขินใช่ไหม
ออกไป
ไล่จังเลย กลัวตกหลุมรักอีกหรือไง
ฝันไปเถอะ
หรือไม่จริง?
ก็ไม่จริงไง
หนีความรู้สึกตัวเองชัด ๆ
ก็บอกว่าเปล่า!”
เปล่าอะไร จูบแค่นี้ก็หน้าแดงแจ๋แล้ว พูดจบก็หัวเราะในลำคอเหมือนเยาะเย้ยกัน คนโดนยั่วโทสะสอดแขนโอบรอบลำคอแกร่งเขย่งตัวขึ้นทาบริมฝีปากแนบแน่นแล้วกระชากออก
ไม่รู้สึก พอใจยัง
เด็กชะมัดคนมือไวจงใจสอดมือเข้ามาใต้สาบเสื้อตัวโคร่งสัมผัสกับผิวเนื้อเนียนนุ่มที่กำลังทำให้เขาอดใจไม่ไหว
“…”
พิสูจน์สิ.. มากกว่านี้...
“…”
พิสูจน์ว่าต่อให้มากกว่านี้ก็ไม่รู้สึก


               




*





               
แบคฮยอนเงยหน้ามองร่างสูงที่ยืนเลิกคิ้วพร้อมเท้าแขนคร่อมร่างเขาไว้กับผนังห้องคอนโดหรู คนตัวเล็กกำลังทุบหัวตัวเองในความคิดไปแล้วนับครั้งไม่ถ้วน หลังจากที่เกิดบ้าดีเดือดพลั้งปากรับคำท้าอีกคน
เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วอีกคนยิ้มมุมปากก่อนจะคว้าแขนเขาออกมาจากทางหลังร้านพร้อมให้ปิดเครื่องหนีเพื่อนทั้ง ๆ ที่เป็นวันเกิดตัวเอง รู้ตัวอีกทีก็มายืนหอบแฮ่กเพราะอีกคนพึ่งจะยอมผละริมฝีปากออกไปหลังตะโบมจูบอยู่นานกว่า 5 นาที
ปาร์ค ชานยอลจับเขายืนพิงประตูในตอนที่ตัวเองยืนคร่อมแล้วไขประตูไปด้วย พอประตูเปิดออกแบคฮยอนก็โดนแผงอกแกร่งดันเข้ามาด้านในพร้อมริมฝีปากที่จู่โจมแบบไม่ให้ได้ตั้งตัว
กลัวเหรอ
ใครกลัว
ก็เห็นตัวสั่น ส่งเสียงหัวเราะในคำคอ
มือเย็น ๆ กำลังทำเขาขนลุกเพราะเอาแต่ลูบไล้บีบคลึงไปทั่วผิวเนียน แบคฮยอนที่พยายามจะแสดงออกตรงกันข้ามกับความรู้สึกยื่นมือสั่น ๆ ไปปลดแจ็คเก็ตตัวโตออกจากร่างกายอีกคน
ชานยอลเพียงแค่ยืนมองใบหน้าจิ้มลิ้มกำลังเม้มปากเหมือนคนประหม่า แต่ปากกลับดีเหลือเกิน...
ตวัดวงแขนแข็งแกร่งรอบเอวบางยกอีกคนจนตัวลอยกระทั่งทั้งคู่มาล้มแหมะลงบนโซฟาตัวยาว ชานยอลดึงสะโพกกลมเข้ามาหาแล้วลงมือปลดกางเกงหนังสีดำเข้ารูปจนเรียวขาขาวโผล่พ้นออกมา
อื้อ..”
โน้มใบหน้าลงไปปล้ำจูบริมฝีปากเยลลี่ให้หายมันเขี้ยว ไล้มือสัมผัสร่างกายเนียนนุ่มลื่นมือ แน่นอนว่าไม่ใช่ครั้งแรกระหว่างเราแต่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีและเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นอีกคนในเวอร์ชั่นใจกล้าแบบนี้
ชานยอลเคยชอบเวอร์ชั่นคนขี้อายที่เอาแต่ก้มหน้างุดในตอนที่มีครั้งแรกระหว่างกัน แต่ตอนนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเวอร์ชั่นนี้ก็ดึงดูดเขาจนแทบจะยั้งตัวเองให้ใจเย็นไม่ไหว
มือหนาปลดกระดุมเสื้อออกทั้งหมดก่อนรั้งลงจากไหล่บอบบางไปกองที่ข้อพับอีกคน เสื้อสีแดงตัวโคร่งหมิ่นเหม่ตัดกับผิวขาวเนียนแบบนี้น่ะ น่าแกล้งจะตาย..
อ๊ะ..
ยกมือมาจับไหล่แกร่งเมื่ออยู่ ๆ อีกคนก็เคลื่อนตัวซุกหน้าลงกับหว่างขาเขา ริมฝีปากอุ่นพรมจูบดูดดึงไปทั่วเรียวขาด้านในจนมันสั่นระริก รั้งอันเดอร์แวร์สีดำตัดกับผิวออกไปด้านข้างก่อนลิ้นชื้นแฉะจะแตะลงที่ปากทางสีสวย
อ๊า!”
เรียวนิ้วสอดเข้าไปในกลุ่มผมที่ถูกเซ็ทมาเป็นอย่างดีคอยดึงรั้งในตอนที่อีกคนแกล้งสอดลิ้นเข้ามาเย้าแหย่ปากทางสีสวย ไล้ริมฝีปากขึ้นมาบนหน้าท้องแบนราบและยอดอกสีสวยล่อตาขณะที่แทรกเรียวนิ้วยาวเข้าไปแทนช่องทางคับแน่นกระตุกตอดรัดจนแทบขยับนิ้วไม่ได้
คนตัวเล็กเชิดหน้าขึ้นครางเสียงหวาน เอียงหน้าหลบสายตาที่เหมือนกับว่าจะแผดเผาร่างกายของเขาให้ละลายไปเสียตอนนี้ เรื่องราวระหว่างแค่แฟนเก่าสมัยมัธยมที่บังเอิญกลับมาเจอกันกำลังบานปลายไปใหญ่

กลิ่นถ่านไฟเก่ามันหอมหวาน

ผมสีเข้มที่ถูกเซ็ทมาอย่างดีกับร่างกายกำยำจากการออกกำลังกายทำแบคฮยอนเผลอใจเต้นไม่เป็นส่ำ ให้ตาย อีกคนโตขึ้นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
สายตาอ่อนโยนที่เคยเห็นตอนนี้มีแค่ความร้อนแรงจนน่าขนลุก ขืนโดนมองอยู่แบบนี้แบคฮยอนต้องตายเพราะสายตาแบบนี้แน่ ๆ
อันเดอร์แวร์ตัวจิ๋วถูกรั้งออกไปแล้ว ชานยอลยันเข่าขึ้นปลดหัวเข็มขัดออกในขณะที่ยังไม่ละสายตาจากใบหน้าอีกคน เขาไม่ได้คิดว่าแบคฮยอนจะอยากเอาชนะขนาดที่จะตามมาจนยอมให้ชานยอลแตะต้องร่างกายแบบนี้
ตอนนั้นคิดว่าอย่างมากคงถูกผลักออกแต่ถ้าหนักกว่านั้นคงโดนมือเรียวนี่ตบสักที
แต่แน่นอนในตอนนี้ที่อีกคนอยู่ในอ้อมแขนแล้วมีหรือที่เขาจะปล่อยให้หลุดไปอีกครั้ง คนปากแข็งที่เขาตามจีบมาเกือบปีกว่าจะได้คบกัน คนที่บอกว่ารักเขานักหนาแต่กลับทิ้งกันอย่างง่ายดายเหมือนไม่เคยรู้สึกแบบนั้น

แถมยังหลบหน้าทุกครั้งที่ชานยอลคิดจะเข้าหา
ใครกันแน่ที่ใจร้าย
แบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน?

"ทำไมไม่มองล่ะ"
"ทำไมต้องมองด้วย"
"ไม่มองแล้วจะรู้เหรอว่าเค้ากำลังรู้สึกกับคุณแค่ไหน"
"ไม่อยากรู้"
"กลัวเขินแหงเลย"
ตามที่คาดพอโดนสบประมาทแบคฮยอนหันควับมาจ้องหน้าอีกคนตาเขม็ง ริมฝีปากบางเม้มแน่นเมื่อมือหนาดึงมือเขาให้สัมผัสเข้ากับท่อนกายที่ขยายใหญ่ขึ้น
ชานยอลจับมืออีกคนค่อย ๆ รูดรั้งลงตามความยาว ไม่รู้สึกอะไรกัน แค่มองตาแค่นี้ก็แก้มแดงจนอยากก้มลงไปฟัดให้ช้ำ ไม่ต้องเดาถึงตอนนี้ที่กำลังสัมผัสความเป็นชายของเขาเลย
แบคฮยอนรีบดึงมือออกไปกุมกันไว้บนแป่นอก คนตัวโตยิ้มร้ายจงใจจับส่วนปลายถูไถที่ปากทางเบา ๆ ค่อย ๆ สอดส่วนหัวเข้าไปก่อนจะดึงออกมาเหมือนแกล้งกัน
แต่พอแกล้งไปแกล้งมาคนที่ทนไม่ไหวกลับกลายเป็นตัวเองเสียอย่างนั้น
"อื้อ!"
ดันท่อนกายเข้าไปใหม่ได้เพียงแค่ครึ่งก็แทบจะขยับไม่ได้ผนังอ่อนนุ่มตอดรัดถี่รัวจนคนด้านบนต้องเงยหน้าคำรามเสียงต่ำ ชานยอลดึงออกก่อนจะดันเข้าไปใหม่ทำแบบนั้นซ้ำ ๆ ให้ช่องทางคับแน่นคุ้นชินกระทั่งทั้งหมดของความเป็นชายเชื่อมต่อกับอีกคนจนมิดลำ
โน้มกายลงซุกใบหน้าลงกับซอกคอขาว สูดดมกลิ่นกายหอมหวานที่กำลังมอมเมาเขา

อีกครั้ง

ชานยอลรวบร่างกายบอบบางขึ้นมากระทั่งอีกคนเปลี่ยนมานั่งคร่อมทับตักเขาโดยที่ร่างกายเรายังเชื่อมกันแนบแน่น
แบคฮยอนเชิดหน้าขึ้นส่งเสียงอื้ออึงในลำคอ มือเรียวข้างซ้ายเกาะไหล่แกร่งพยุงร่างกายส่วนอีกข้างทาบลงกับหน้าท้องแบบราบ ท่าทางแบบนี้ทำให้ท่อนกายอีกคนเข้าไปลึกนิ่งกว่าเดิมจนภายในสั่นไหว
"อ่ะ... อ๊า! เดี๋ยว--"
พอเห็นเขานิ่งคนใต้ร่างก็ขยับสะโพกสวนขึ้นมาเบา ๆ แค่นี้ก็สะท้านไปทั้งร่าง เสื้อที่อีกคนไม่ยอมให้ถอดหลุดลุ่ยมากองอยู่ที่ข้อศอก
ภาพตรงหน้าทำให้ชานยอลอดทนไม่ไหวที่จะรอให้อีกคนคุ้นชิน ก็เป้ากางเกงเขามันคับแน่นตั้งแต่อีกคนมองด้วยสายตาละห้อยตอนที่เรายังอยู่ในห้องน้ำที่ร้านแล้ว
ขยับเร็ว
จับเอวคอดบางให้ขยับขึ้นลงโดยที่ตัวเองได้แต่กัดฟันจนสันกรามนูนชัดข่มอารมณ์ไม่ให้เร่งเร้ากระแทกสวนขึ้นไปแรง ๆ อย่างที่ใจคิด แบคฮยอนหลับตาแน่นพรูลมหายใจออกมาช้า ๆ
คนตัวเล็กยอมขยับร่างกายตามที่อีกคนชักนำกระทั่งตอนนี้มีเพียงแค่แบคฮยอนที่ขย่มกายขึ้นลงเนิบนาบ ยอดอกที่ลอยเด่นล่อตาถูกจัดการด้วยลิ้นชื้นซ้ำยังดูดดึงจนทั่วแผ่นอกแดงช้ำ
ฟาดมือลงกับสะโพกแน่นด้วยความมันเขี้ยวกระแทกสะโพกสอบสวนขึ้นไปพอที่จะทำให้ร่างกายบอบบางสั่นไหว เสียงกระทบของผิวกายดังเคล้ากับเสียงครางหวาน
อ๊ะ อ่ะ.. อ๊า!”
อา.. ฝ่ามือใหญ่ยังคงเคล้นคลึงไปตามเนื้อกายนุ่มนิ่ม สัมผัสไปทั่วร่างเหมือนทดแทนเวลาที่ผ่านมาที่ไม่ได้สัมผัสมัน
ภายในผนังอ่อนนุ่มรัดท่อนกายแนบแน่น น้ำตาไหลเป็นสายเพราะความเสียดเสียวที่รับมือได้แค่การปล่อยเสียงครวญครางออกมา
แต่เหมือนจะไม่ได้ดั่งใจร่างบางถึงได้ถูกดันลงมานอนหงายบนโซฟาแทน เรียวขาขาวข้างหนึ่งถูกจับพาดบนบ่าแกร่งอีกข้างพาดอยู่ที่ข้อพับ บิดกายเร่าเพราะแรงเสียดจากแกนกายและผนังนุ่มที่ครูกันจนเผลอแสดงท่าทางยั่วยวนโดยไม่ได้ตั้งใจ
อ่ะ—อื้อ..
ชานยอลโน้มกายลงมาประกบริมฝีปากตะโบมจูบจนน้ำสีใสไหลออกมาจากมุมปาก ขณะเดียวกันสะโพกสอบก็ยังคงทำงานไม่ขาดตกบกพร่อง มันทั้งร้อนแรงและหยาบโลนจนคนรองรับแทบสิ้นสติ

นี่เรียกว่าความโหยหาหรือเปล่า?

ชะ ชานยอล.. ฮ่ะ อ๊า..คนใต้ร่างเรียกชื่ออีกคนออกมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ จิกปลายกรีดลงกับต้นแขนแน่นกล้ามจนเป็นรอยเล็บยาว
ริมฝีปากที่ก่อนหน้าฉกชิงลมหายใจและลุกล้ำจนบวมช้ำกำลังยิ้มมุมปากจนหัวใจคนมองเต้นแรง เสียงครางเครือและเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นไปทั่วห้อง ส่วนปลายแกนกายเล็กปริ่มน้ำใส
ปาร์ค ชานยอลยังคงกระแทกอย่างไม่ปราณีร่างกายเขาสักนิด ผู้ชายที่เคยอ่อนโยนเมื่อหลายปีก่อนมันตายไปแล้วหรือไง ยิ่งบอกให้ช้าลงอีกคนก็ยิ่งเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น
ส่วนปลายความเป็นชายกระทบกับจุดกระสันเขาไม่หยุดยิ่งจุดไหนที่ทำให้แบคฮยอนสั่นไหวหรือเสียอาการอีกคนก็จะยิ่งเล่นงานมัน เพดานสีขาวคือจุดยึดสายตาเดียวที่แบคฮยอนมองเห็น
ไม่รอให้คนตัวเล็กหลบสายตานาน ล็อคปลายคางอีกคนให้สายตาประสานกันก้มลงบดขยี้ริมฝีปากคนปากแข็งให้เข็ด สะโพกแกร่งลดจังหวะลงแต่จงใจดึงท่อนกายออกแล้วกระแทกเข้ามาแรง ๆ ที่จุดเสียวซ้ำแล้วซ้ำเล่า
กระทั่งคนใต้ร่างตัวสั่นระริกหลับตาปี๋สะบัดหน้าเชิดขึ้นครางเสียงสั่นท่อนกายเล็กปลดปล่อยความน่าอายออกมาเลอะทั้งหน้าท้องตัวเองและหน้าท้องแกร่งที่บดเบียดแนบแน่น
ชานยอลปล่อยให้เขาหายใจเพียงแค่ไม่กี่วินาทีก็เริ่มขยับกายอีกครั้ง
ดะ เดี๋ยว— อ๊า
บิดกายเร่าหนีความเป็นชายร้ายกาจที่กำลังทำให้เขาเสียศูนย์อีกครั้ง เสียงครูดของเล็บกับโซฟาดังหลอนในโสตประสาทเขาไปหมด จนแทบจะหายใจไม่ทันอยู่แล้ว
ฮ่ะ.. อ๊า อ๊า!”
ดันเรียวขาทั้งสองข้างขึ้นจนชิดอกเผยให้เห็นส่วนที่เชื่อมกันชัดเจนแล้วจงใจกระแทกถี่รัวอยู่พักใหญ่กระทั่งน้ำรักฉ่ำแฉะฉีดพ่นเข้าไปในกายอีกคนทุกหยาดหยด โน้มตัวลงไปดูดดึงริมฝีปากเยลลี่ก่อนจะแลบเลียหยดน้ำใสที่เลอะมุมปาก
มือเรียวผลักอกอีกคนออกไป ชานยอลแกล้งกระทั้นเข้าหาจนได้ยินเสียงครางหวาน ถึงได้ยอมขยับออกมาแต่โดยดีเพราะสงสารเรียวขาขาวที่สั่นระริกหรอกนะ ร่างกายใหญ่โตยันเข่าให้เก็บความเป็นชายเข้าที่หากแต่ยังคงแทรกอยู่ระหว่างขาอีกคนที่กำลังพยายามจะเบียดมันเพื่อปกปิดส่วนหน้าอาย
อาบน้ำกันดีกว่า
นี่! ไม่ต้องอุ้ม!”
คนตัวเล็กที่อยู่ในท่าเจ้าสาวร้องเสียงหลงรัวมือทุบแผ่นอกอีกคนเพื่อให้ปล่อย ชานยอลวางอีกคนบนเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าและคนตัวเล็กก็ยังไม่หยุดดิ้นยุกยิกจนเขาต้องรูดซิบกางเกงลงจนเห็นส่วนนั้นที่ซ่อนในอันเดอร์แวร์แล้วขู่ด้วยสายตา ก็ลองดู มันพร้อมจะตื่นทุกเมื่ออยู่แล้วถ้าอยู่กับแบคฮยอน

จะปราบพยศให้เข็ด
               
             คนตัวเล็กนิ่งไปแต่ก็ยังไม่หยุดฟึดฟัดเพราะไอ้ผู้ชายร่างยักษ์นี่ยังคงแทรกอยู่กลางหว่างขาทั้ง ๆ ที่เขายังโป๊อยู่ อีกคนไม่สะทกสะท้ายเอาแต่เท้าคางมองแล้วอมยิ้ม
มองทำไมนักหนา
คุณน่ารักไง มองไม่ได้เหรอ.. ขี้หวงจัง
ไม่ได้!”
คุณ
อะไร
มีแฟนรึยัง
พึ่งจะมาถามเหรอ ถ้าบอกว่ามีแล้วเหตุการณ์เมื่อกี้จะแก้ไขอะไรได้หรือไง
แสดงว่าไม่มี พยักหน้าพอใจกับคำตอบที่รู้อยู่แล้ว เรื่องแบคฮยอนตลอดหลายปีที่ผ่านมาชานยอลรับรู้มันทั้งหมดอยู่แล้ว เค้าก็ไม่มีนะ
บอกทำไม ไม่ได้ถามสักหน่อย
ใจคุณอยากรู้
มั่ว
โดนรู้ทันแล้วเขินอะดิ
ปาร์ค ชานยอล!”
กลับมาคบกันไหม
...เพ้อเจ้อสวนกลับด้วยความรู้สึกที่สั่นไหว แค่มีอะไรกันแค่นี้ต้องกลับไปคบด้วยรึไง
เค้าอยากรับผิดชอบนะ
ไม่ต้องมาพูดเลย” แบคฮยอนปัดมืออีกที่ยกมาจับแก้มตัวเองออก

รับผิดชอบอะไรป่านนี้
หลายปีก่อนยังทำเขานอนร้องไห้ขี้มูกโป่งเพราะคิดถึงอยู่เลย

คุณไม่รักเค้าแล้วเหรอ
“…” แบคฮยอนนิ่งไปเพราะสรรพนามคุ้นเคยที่หลอกล่อให้เขาใจอ่อน แต่แบคฮยอนจะไม่รักคนใจร้ายแล้ว ไม่รักหรอกไอ้คนที่ทำให้เขาเริ่มใหม่กับใครไม่ได้นั่นน่ะ ไม่อยากรักเลยสักนิด ...ไม่
แบคฮยอน
คนตัวเล็กดันแผ่นอกอีกคนให้ถอยออกไปก่อนจะขยับลงมายืนข้างล่าง ขยับปากพูดเสียงแผ่วที่ได้ยินแค่ตัวเอง
“เค้าไม่อยากรักคุณแล้ว..”
พูดจบก็หมุนตัวเตรียมจะเดินหนีไปจากบรรยากาศที่เริ่มอึดอัดนี้เสียที แบคฮยอนไม่อยากรู้สึกอีกแล้ว เขาอ่านใจอีกคนไม่ออกหรอกว่าแค่ต้องการมาแกล้งหรืออะไร เพราะที่อยากได้ตอนนี้ก็ให้ไปหมดแล้ว
ถึงจะเอาแต่บอกตัวเองว่าอย่านะ อย่านะ.. อย่าตกหลุมรักอีกนะ.. แต่ปาร์คชานยอลก็ยังคงเป็นคนที่ทำให้เขาใจสั่นได้เสมอ ไม่ว่าจะเมื่อหลายปีที่แล้วหรือแม้แต่วินาทีนี้ก็ไม่เคยเลิกรู้สึกได้เลย
มือหนาคว้าข้อมืออีกคนดึงรั้งเข้ามาชิดแผ่นอกตวัดท่อนแขนโอบรอบเอวบางไว้แน่นสบสายตาที่สั่นไหว และสายตาจริงจังของอีกคนก็ทำให้คนในอ้อมแขนชะงักอีกครั้งแล้ว เพราะมันเหมือนกำลังบอกเป็นนัยว่า

ชานยอลจะไม่ปล่อยให้แบคฮยอนหายไปไหนอีกแล้ว


            และอีกสิ่งที่คนตรงหน้าเขาต้องรู้
ความบังเอิญในวันนี้น่ะไม่มีจริงหรอกแบคฮยอน


ไม่รักกันจริง ๆ น่ะเหรอแบคฮยอน
...
หมายถึงเมื่อก่อนก็ไม่เคยรักเลยใช่ไหม
ไม่ใช่นะ! คือเค้าไม่ได้--คนตัวเล็กโพร่งขึ้นมาก่อนจะต้องเม้มริมฝีปากแน่นเพราะเห็นรอยยิ้มร้ายที่เหมือนจะรู้ทันของอีกคน ตกหลุมผู้ชายคนนี้อีกแล้ว
จะบอกว่าไม่ได้ไม่รักเหรอชานยอลยิ้มแป้นกระชับวงแขนที่กอดอยู่แน่นขึ้น
บอกว่าไม่รักต่างหาก!”
ถ้าคุณยังเอาแต่พูดว่าไม่รักอีกครั้งนะ...หรี่ตาลงมองอีกคนด้วยสายตาจริงจังแกมขู่
ทำไม คุณจะทำอะไร
เค้าจะจีบคุณใหม่
“…”
จีบจนกว่าคุณจะพูดว่ารักเค้าเหมือนเดิม เข้าใจไหมแบคฮยอน








(ยังไม่) END




-------------------------------------------------------------------------




TALK

อัพเดทพาร์ท 2 แล้วน้า > < ลิ้งใต้เธรดเลยค่า
ถ้าชอบก็อย่าลืมแวะมาให้กำลังไตกันได้ที #mustCByou นะค้าบ
แล้วจามากาวอีกบ่อย ๆ ;-;







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

[OS] - Dude? / omegaverse

 Dude? ชานยอลยกยิ้มมุมปากเมื่อรู้ว่าแบคฮยอนกำลังกระทำการยั่วยวนเขาอีกแล้ว ร่างสูงชันเข่าลงกับผืนเตียงยืดตัวขึ้นก่อนจะถลกเสื้อออกจากหัวเหลื...