บยอน แบคฮยอนชายหนุ่มรูปร่างผอมบางเจ้าของฉายาคุณชายเรื่องเยอะของกลุ่มกำลังแสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์
เรียวขาที่ถูกสวมด้วยกางเกงเข้ารูปสีดำไขว้ห้างกระดิกปลายเท้าไปมาเพื่อบอกให้รู้ว่าเขาไม่พอใจ
ไม่พอใจมาก ๆ!
ทำไมเพื่อนเขาต้องชวนไอ้คนขี้เต๊ะนี่มานั่งด้วย!!
ชวนไม่ถามเจ้าของวันเกิดสักคำ!!!
“ชนนนนนน”
เสียงเฮลั่นก่อนทุกจากตาจะจับจ้องมาที่เขาเพื่อให้เจ้าของวันเกิดเป็นคนเปิด
แบคฮยอนยกแก้วขึ้นกระดกรวดเดียวก่อนทุกคนจะยกขึ้นกระดกตาม
ยกเว้นผู้ชายตัวโตคนนั้นที่กำลังมองเขาไม่วางตา
“นี่มึงเมายังวะ
ตัวแดงน่ากลัวฉิบ”
“ไม่”
แบคฮยอนกระดกไปอีกแก้วทั้ง
ๆ ที่ไม่ได้คิดอยากจะเมา เหมือนเขาแค่ต้องการหาทางหลบสายตาผู้ชายคนนั้นมากกว่า
ก็เข้าใจว่าเมื่อก่อนก๊วนเพื่อนเขาและผู้ชายคนนี้ก็คุยกันถูกคอและสนิทกันในระดับหนึ่ง
แต่ไม่คิดว่ามันจะมีมารยาทกันขนาดชวนแฟนเก่าเพื่อนที่บังเอิญเจอกันในร้านเหล้าให้มานั่งด้วย
“มึงเป็นไรเนี่ย”
จงอินเอาศอกจิ้มเอวเพื่อนตัวเล็กที่เอาแต่ทำท่าทางฟึดฟัดจิ๊ปากไม่หยุด
“เปล่า”
“เปล่าก็แย่ละ
หน้าหงิกเป็นตูด”
“ไม่ต้องมายุ่งเลย
เพราะพวกมึงนั่นแหละ!”
คิมจงอินชี้หน้าตัวเองก่อนคนหัวเสียจะยกแก้วเพื่อนขึ้นกระดกแล้วลุกขึ้นเดินเร็ว
ๆ ไปทางห้องน้ำ ร่างเล็กเลือกเข้าห้องในสุดก่อนจะยีหัวตัวเองไปมาระหว่างนึกถึงใบหน้ากวนตีนที่เอาแต่เหลือบตามองแล้วยิ้มมุมปากให้เขา
ปาร์ค ชานยอลแฟนคนแรกตั้งแต่สมัยมัธยมที่เลิกกันด้วยเหตุผลงี่เง่า
แต่เอาความจริงมันก็เกิดจากเขาเองนั่นแหละก็ไอ้บ้านี่เอาแต่เล่นบาสชวนไปไหนก็ไม่ว่างเพราะเล่นบาสไม่ก็เข้าชมรม
ด้วยความที่ยังเด็กเลยเผลอประชดประชันด้วยการบอกว่า
‘ถ้าจะไม่มีเวลาให้แบบนี้ก็เลิกกันไปเลยไป’
แล้วใครจะไปรู้ว่ามันจะไม่ง้อ!
หลังจากนั้นไอ้บ้านั่นก็หายสาบสูญไปจากวงโคจร
คงจะไปกกอยู่กับบาสเหมือนที่เคยเป็นนั่นแหละ
ส่วนแบคฮยอนไม่ได้หลบหน้าแต่เขาแค่หลีกเลี่ยงการไปสถานที่ที่อีกคนจะอยู่แค่นั้นเอง
หลังจากจบมัธยมการเจอกันล่าสุดคงเป็นแค่วันจบการศึกษาที่แค่ได้มองหน้ากันเพียงไม่กี่วินาทีก่อนจะแยกกันขึ้นรับใบประกาศและหายจากกันไปจนถึงตอนนี้..
เขาพอจะรู้ข่าวคราวมาบ้างว่าอีกคนกำลังจะกลายเป็นครูพละเต็มตัวหลังจากจบปีการศึกษานี้
แต่ก็ไม่แปลกใจนักเพราะตลอดเวลาที่เคยรู้จักกันชานยอลก็บ้าและเก่งทุกอย่างที่เป็นกีฬาอยู่แล้ว
ก๊อก ก๊อก
สงบสติอารมณ์ตัวเองในห้องน้ำพักใหญ่
เสียงเคาะประตูห้องน้ำเบา ๆ เรียกความสนใจจากคนฟุ้งซ่านให้เงยหน้ามามอง
ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะเมาแต่หลังจากที่บ้าบิ่นยกซดไปหลายแก้วก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าไม่มึน
แบคฮยอนเปิดประตูพรวดเพราะคิดว่าจะเป็นไอ้จงอินหรือไม่ก็เพื่อนสักคนในกลุ่มที่เดินมาตามเขา
แต่ผิดคาด
พลั่ก
ร่างสูงใหญ่ดันประตูก่อนจะเบียดเข้ามาในห้องน้ำแคบ
ๆ แล้วล็อคกลอนลงทันที
คนตัวเล็กเบิกตากว้างเพราะไอ้คนที่ทำเขาฟุ้งซ่านกำลังยืนประจันหน้ากันอยู่
บรรยากาศอึดอัดที่กระจายตัวโดยรอบ
รอบตัวแบคฮยอนน่ะ
เพราะคนที่เสนอหน้าเข้ามาไม่ได้รู้สึกอะไรสักนิดแถมยังยิ้มแล้วเลิกคิ้วมองเขาอีก
“เข้ามาทำไม”
“หนีหน้าเหรอ”
“ทำไมต้องหนีด้วย”
“เหรอ
ถ้าไม่หนีก็เงยหน้ามามองกันหน่อยดิ” ปลายนิ้วเชยคางอีกคนขึ้นก่อนจะถูกปัดออกไป
พร้อมใบหน้าหวานที่เขาชอบนักหนาที่ง้ำงออย่างไม่พอใจ
“ไม่ต้องยุ่งได้ป่ะ”
“ไม่ได้” ปาร์ค ชานยอลดันร่างอีกคนชิดฝาผนัง มือแกร่งถือวิสาสะจับเอวคอดแต่อีกคนก็ไม่ได้ยังพยายามจะแกะมือปลาหมึกนี่ออกให้ได้แม้แรงที่มีจะไม่ถึงครึ่งของอีกคน
“เข้ามาหาขนาดนี้ก็ต้องอยากยุ่งแล้ว”
“ปาร์ค
ชานยอล”
“โอ้ะ
ยังจำกันได้นี่นา” ใบหน้าคมโน้มหน้าลงไปจนริมฝีปากชิดใบหู “เสียงตอนเรียกชื่อน่าฟังชะมัด”
“นี่!”
คนโดนแกล้งเม้มริมฝีปากแน่นยกมือขึ้นเหมือนจะฟาดอีกคนเต็มแรงให้หายหงุดหงิดแต่สุดท้ายก็ยั้งมือก่อนจะแสดงท่าทางฟึดฟัด
“กลัวเจ็บเหรอ?”
“หลงตัวเอง!”
“หลงตัวเองที่ไหน
หลงคุณต่างหาก”
“…” สรรพนามเดิม ๆ ที่อีกคนเคยเรียกจนเขาเขินม้วนในตอนนั้นถูกนำกลับมาใช้
คนที่เอาแต่ต่อต้านเงียบลงแต่นัยน์ตายังเผยความไม่พอใจ
เล่นไม้นี้ก็ไม่ยอมแพ้ให้หรอกนะชานยอล
“เขิน?”
“เพ้อเจ้อ”
“ใจร้ายจัง
ไม่คิดถึงกันหน่อยเหรอ”
“ไม่”
“สุขสันต์วันเกิดนะ”
“ขอบใจ แต่ไม่ต้อง”
“เจ็บหัวใจชะมัด”
“ตลกนักหรือไง
ทำไมต้องมาวุ่นวายด้วย”
“เปล่า
แค่คิดถึงคุณ”
“ตอแหล”
ผ่านมาตั้งกี่ปี
พึ่งจะมาคิดถึงกันหรือยังไง
คนโกหก
“พูดจริง
ๆ”
“ถอย
จะออกไปแล้ว”
“ไม่ให้ไป”
“นี่--”
เสียงใสขาดห้วงดวงตาเบิกกว้างแทบถลนอกมาเมื่อมือหนาทั้งสองข้างทาบเข้าที่แก้มเขาก่อนจะโน้มใบหน้าลงทาบริมฝีปากที่ส่วนเดียวกัน
จงใจบีบปลายคางเพื่อทำให้เขายอมเผยอริมฝีปากให้ตัวเองสอดลิ้นเข้ามาจนได้
คนที่ช่ำชองตวัดไล่ต้อนเรียวลิ้นเล็กที่ยังคงอึกอักอยู่ คนตัวเล็กส่งเสียงอื้ออึงยกมือขึ้นจับไหล่อีกคนเพื่อพยุงร่างกาย
แอลกอฮอร์ในร่างกายทั้งคู่พลุ่งพล่านจนเกินจะยั้งตัวเอง
แม้ในใจจะเอาแต่ต่อต้านคนตรงหน้าแต่ร่างกายที่รู้จักกันดีกลับตอบสนองอีกคนทุกอย่าง
ร่างสูงใหญ่ขยับแนบชิดบนเบียดจนแบคฮยอนแทบจะกลืนไปกับผนังอยู่แล้ว
ริมฝีปากคู่เดิมอุ่นเหือนเดิมและกำลังทำให้เขา รู้สึก.. เหมือนเดิม...
พลั่ก!
แบคฮยอนผลักอีกคนออกสุดแรงหลังจากได้สติคนตัวเล็กหอบเบา
ๆ หลังโดนอีกคนพรากลมหายใจ คนตั้งใจจะกวนใช้ปลายนิ้วโป้งปาดน้ำสีใสที่มุมปากก่อนจะเอามาแตะที่ลิ้นตัวเอง
“ปากหวานชะมัด”
“...”
“เงียบนี่แปลว่าเขินใช่ไหม”
“ออกไป”
“ไล่จังเลย
กลัวตกหลุมรักอีกหรือไง”
“ฝันไปเถอะ”
“หรือไม่จริง?”
“ก็ไม่จริงไง”
“หนีความรู้สึกตัวเองชัด
ๆ”
“ก็บอกว่าเปล่า!”
“เปล่าอะไร
จูบแค่นี้ก็หน้าแดงแจ๋แล้ว”
พูดจบก็หัวเราะในลำคอเหมือนเยาะเย้ยกัน
คนโดนยั่วโทสะสอดแขนโอบรอบลำคอแกร่งเขย่งตัวขึ้นทาบริมฝีปากแนบแน่นแล้วกระชากออก
“ไม่รู้สึก
พอใจยัง”
“เด็กชะมัด”
คนมือไวจงใจสอดมือเข้ามาใต้สาบเสื้อตัวโคร่งสัมผัสกับผิวเนื้อเนียนนุ่มที่กำลังทำให้เขาอดใจไม่ไหว
“…”
“พิสูจน์สิ.. มากกว่านี้...”
“…”
“พิสูจน์ว่าต่อให้มากกว่านี้ก็ไม่รู้สึก”
*
แบคฮยอนเงยหน้ามองร่างสูงที่ยืนเลิกคิ้วพร้อมเท้าแขนคร่อมร่างเขาไว้กับผนังห้องคอนโดหรู
คนตัวเล็กกำลังทุบหัวตัวเองในความคิดไปแล้วนับครั้งไม่ถ้วน หลังจากที่เกิดบ้าดีเดือดพลั้งปากรับคำท้าอีกคน
เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วอีกคนยิ้มมุมปากก่อนจะคว้าแขนเขาออกมาจากทางหลังร้านพร้อมให้ปิดเครื่องหนีเพื่อนทั้ง
ๆ ที่เป็นวันเกิดตัวเอง รู้ตัวอีกทีก็มายืนหอบแฮ่กเพราะอีกคนพึ่งจะยอมผละริมฝีปากออกไปหลังตะโบมจูบอยู่นานกว่า 5 นาที
ปาร์ค
ชานยอลจับเขายืนพิงประตูในตอนที่ตัวเองยืนคร่อมแล้วไขประตูไปด้วย
พอประตูเปิดออกแบคฮยอนก็โดนแผงอกแกร่งดันเข้ามาด้านในพร้อมริมฝีปากที่จู่โจมแบบไม่ให้ได้ตั้งตัว
“กลัวเหรอ”
“ใครกลัว”
“ก็เห็นตัวสั่น” ส่งเสียงหัวเราะในคำคอ
มือเย็น
ๆ กำลังทำเขาขนลุกเพราะเอาแต่ลูบไล้บีบคลึงไปทั่วผิวเนียน
แบคฮยอนที่พยายามจะแสดงออกตรงกันข้ามกับความรู้สึกยื่นมือสั่น ๆ ไปปลดแจ็คเก็ตตัวโตออกจากร่างกายอีกคน
ชานยอลเพียงแค่ยืนมองใบหน้าจิ้มลิ้มกำลังเม้มปากเหมือนคนประหม่า
แต่ปากกลับดีเหลือเกิน...
ตวัดวงแขนแข็งแกร่งรอบเอวบางยกอีกคนจนตัวลอยกระทั่งทั้งคู่มาล้มแหมะลงบนโซฟาตัวยาว
ชานยอลดึงสะโพกกลมเข้ามาหาแล้วลงมือปลดกางเกงหนังสีดำเข้ารูปจนเรียวขาขาวโผล่พ้นออกมา
“อื้อ..”
โน้มใบหน้าลงไปปล้ำจูบริมฝีปากเยลลี่ให้หายมันเขี้ยว
ไล้มือสัมผัสร่างกายเนียนนุ่มลื่นมือ แน่นอนว่าไม่ใช่ครั้งแรกระหว่างเราแต่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีและเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นอีกคนในเวอร์ชั่นใจกล้าแบบนี้
ชานยอลเคยชอบเวอร์ชั่นคนขี้อายที่เอาแต่ก้มหน้างุดในตอนที่มีครั้งแรกระหว่างกัน
แต่ตอนนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเวอร์ชั่นนี้ก็ดึงดูดเขาจนแทบจะยั้งตัวเองให้ใจเย็นไม่ไหว
มือหนาปลดกระดุมเสื้อออกทั้งหมดก่อนรั้งลงจากไหล่บอบบางไปกองที่ข้อพับอีกคน
เสื้อสีแดงตัวโคร่งหมิ่นเหม่ตัดกับผิวขาวเนียนแบบนี้น่ะ น่าแกล้งจะตาย..
“อ๊ะ..”
ยกมือมาจับไหล่แกร่งเมื่ออยู่
ๆ อีกคนก็เคลื่อนตัวซุกหน้าลงกับหว่างขาเขา ริมฝีปากอุ่นพรมจูบดูดดึงไปทั่วเรียวขาด้านในจนมันสั่นระริก
รั้งอันเดอร์แวร์สีดำตัดกับผิวออกไปด้านข้างก่อนลิ้นชื้นแฉะจะแตะลงที่ปากทางสีสวย
“อ๊า!”
เรียวนิ้วสอดเข้าไปในกลุ่มผมที่ถูกเซ็ทมาเป็นอย่างดีคอยดึงรั้งในตอนที่อีกคนแกล้งสอดลิ้นเข้ามาเย้าแหย่ปากทางสีสวย
ไล้ริมฝีปากขึ้นมาบนหน้าท้องแบนราบและยอดอกสีสวยล่อตาขณะที่แทรกเรียวนิ้วยาวเข้าไปแทนช่องทางคับแน่นกระตุกตอดรัดจนแทบขยับนิ้วไม่ได้
คนตัวเล็กเชิดหน้าขึ้นครางเสียงหวาน
เอียงหน้าหลบสายตาที่เหมือนกับว่าจะแผดเผาร่างกายของเขาให้ละลายไปเสียตอนนี้ เรื่องราวระหว่างแค่แฟนเก่าสมัยมัธยมที่บังเอิญกลับมาเจอกันกำลังบานปลายไปใหญ่
กลิ่นถ่านไฟเก่ามันหอมหวาน
ผมสีเข้มที่ถูกเซ็ทมาอย่างดีกับร่างกายกำยำจากการออกกำลังกายทำแบคฮยอนเผลอใจเต้นไม่เป็นส่ำ
ให้ตาย อีกคนโตขึ้นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
สายตาอ่อนโยนที่เคยเห็นตอนนี้มีแค่ความร้อนแรงจนน่าขนลุก
ขืนโดนมองอยู่แบบนี้แบคฮยอนต้องตายเพราะสายตาแบบนี้แน่ ๆ
อันเดอร์แวร์ตัวจิ๋วถูกรั้งออกไปแล้ว
ชานยอลยันเข่าขึ้นปลดหัวเข็มขัดออกในขณะที่ยังไม่ละสายตาจากใบหน้าอีกคน
เขาไม่ได้คิดว่าแบคฮยอนจะอยากเอาชนะขนาดที่จะตามมาจนยอมให้ชานยอลแตะต้องร่างกายแบบนี้
ตอนนั้นคิดว่าอย่างมากคงถูกผลักออกแต่ถ้าหนักกว่านั้นคงโดนมือเรียวนี่ตบสักที
แต่แน่นอนในตอนนี้ที่อีกคนอยู่ในอ้อมแขนแล้วมีหรือที่เขาจะปล่อยให้หลุดไปอีกครั้ง
คนปากแข็งที่เขาตามจีบมาเกือบปีกว่าจะได้คบกัน คนที่บอกว่ารักเขานักหนาแต่กลับทิ้งกันอย่างง่ายดายเหมือนไม่เคยรู้สึกแบบนั้น
แถมยังหลบหน้าทุกครั้งที่ชานยอลคิดจะเข้าหา
ใครกันแน่ที่ใจร้าย
แบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน?
"ทำไมไม่มองล่ะ"
"ทำไมต้องมองด้วย"
"ไม่มองแล้วจะรู้เหรอว่าเค้ากำลังรู้สึกกับคุณแค่ไหน"
"ไม่อยากรู้"
"กลัวเขินแหงเลย"
ตามที่คาดพอโดนสบประมาทแบคฮยอนหันควับมาจ้องหน้าอีกคนตาเขม็ง
ริมฝีปากบางเม้มแน่นเมื่อมือหนาดึงมือเขาให้สัมผัสเข้ากับท่อนกายที่ขยายใหญ่ขึ้น
ชานยอลจับมืออีกคนค่อย ๆ รูดรั้งลงตามความยาว
ไม่รู้สึกอะไรกัน แค่มองตาแค่นี้ก็แก้มแดงจนอยากก้มลงไปฟัดให้ช้ำ ไม่ต้องเดาถึงตอนนี้ที่กำลังสัมผัสความเป็นชายของเขาเลย
แบคฮยอนรีบดึงมือออกไปกุมกันไว้บนแป่นอก
คนตัวโตยิ้มร้ายจงใจจับส่วนปลายถูไถที่ปากทางเบา ๆ ค่อย ๆ
สอดส่วนหัวเข้าไปก่อนจะดึงออกมาเหมือนแกล้งกัน
แต่พอแกล้งไปแกล้งมาคนที่ทนไม่ไหวกลับกลายเป็นตัวเองเสียอย่างนั้น
"อื้อ!"
ดันท่อนกายเข้าไปใหม่ได้เพียงแค่ครึ่งก็แทบจะขยับไม่ได้ผนังอ่อนนุ่มตอดรัดถี่รัวจนคนด้านบนต้องเงยหน้าคำรามเสียงต่ำ
ชานยอลดึงออกก่อนจะดันเข้าไปใหม่ทำแบบนั้นซ้ำ ๆ ให้ช่องทางคับแน่นคุ้นชินกระทั่งทั้งหมดของความเป็นชายเชื่อมต่อกับอีกคนจนมิดลำ
โน้มกายลงซุกใบหน้าลงกับซอกคอขาว
สูดดมกลิ่นกายหอมหวานที่กำลังมอมเมาเขา
อีกครั้ง
ชานยอลรวบร่างกายบอบบางขึ้นมากระทั่งอีกคนเปลี่ยนมานั่งคร่อมทับตักเขาโดยที่ร่างกายเรายังเชื่อมกันแนบแน่น
แบคฮยอนเชิดหน้าขึ้นส่งเสียงอื้ออึงในลำคอ
มือเรียวข้างซ้ายเกาะไหล่แกร่งพยุงร่างกายส่วนอีกข้างทาบลงกับหน้าท้องแบบราบ ท่าทางแบบนี้ทำให้ท่อนกายอีกคนเข้าไปลึกนิ่งกว่าเดิมจนภายในสั่นไหว
"อ่ะ... อ๊า!
เดี๋ยว--"
พอเห็นเขานิ่งคนใต้ร่างก็ขยับสะโพกสวนขึ้นมาเบา
ๆ แค่นี้ก็สะท้านไปทั้งร่าง เสื้อที่อีกคนไม่ยอมให้ถอดหลุดลุ่ยมากองอยู่ที่ข้อศอก
ภาพตรงหน้าทำให้ชานยอลอดทนไม่ไหวที่จะรอให้อีกคนคุ้นชิน
ก็เป้ากางเกงเขามันคับแน่นตั้งแต่อีกคนมองด้วยสายตาละห้อยตอนที่เรายังอยู่ในห้องน้ำที่ร้านแล้ว
“ขยับเร็ว”
จับเอวคอดบางให้ขยับขึ้นลงโดยที่ตัวเองได้แต่กัดฟันจนสันกรามนูนชัดข่มอารมณ์ไม่ให้เร่งเร้ากระแทกสวนขึ้นไปแรง
ๆ อย่างที่ใจคิด แบคฮยอนหลับตาแน่นพรูลมหายใจออกมาช้า
ๆ
คนตัวเล็กยอมขยับร่างกายตามที่อีกคนชักนำกระทั่งตอนนี้มีเพียงแค่แบคฮยอนที่ขย่มกายขึ้นลงเนิบนาบ
ยอดอกที่ลอยเด่นล่อตาถูกจัดการด้วยลิ้นชื้นซ้ำยังดูดดึงจนทั่วแผ่นอกแดงช้ำ
ฟาดมือลงกับสะโพกแน่นด้วยความมันเขี้ยวกระแทกสะโพกสอบสวนขึ้นไปพอที่จะทำให้ร่างกายบอบบางสั่นไหว
เสียงกระทบของผิวกายดังเคล้ากับเสียงครางหวาน
“อ๊ะ
อ่ะ.. อ๊า!”
“อา..” ฝ่ามือใหญ่ยังคงเคล้นคลึงไปตามเนื้อกายนุ่มนิ่ม
สัมผัสไปทั่วร่างเหมือนทดแทนเวลาที่ผ่านมาที่ไม่ได้สัมผัสมัน
ภายในผนังอ่อนนุ่มรัดท่อนกายแนบแน่น
น้ำตาไหลเป็นสายเพราะความเสียดเสียวที่รับมือได้แค่การปล่อยเสียงครวญครางออกมา
แต่เหมือนจะไม่ได้ดั่งใจร่างบางถึงได้ถูกดันลงมานอนหงายบนโซฟาแทน
เรียวขาขาวข้างหนึ่งถูกจับพาดบนบ่าแกร่งอีกข้างพาดอยู่ที่ข้อพับ บิดกายเร่าเพราะแรงเสียดจากแกนกายและผนังนุ่มที่ครูกันจนเผลอแสดงท่าทางยั่วยวนโดยไม่ได้ตั้งใจ
“อ่ะ—อื้อ..”
ชานยอลโน้มกายลงมาประกบริมฝีปากตะโบมจูบจนน้ำสีใสไหลออกมาจากมุมปาก
ขณะเดียวกันสะโพกสอบก็ยังคงทำงานไม่ขาดตกบกพร่อง มันทั้งร้อนแรงและหยาบโลนจนคนรองรับแทบสิ้นสติ
นี่เรียกว่าความโหยหาหรือเปล่า?
“ชะ
ชานยอล.. ฮ่ะ อ๊า..” คนใต้ร่างเรียกชื่ออีกคนออกมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
จิกปลายกรีดลงกับต้นแขนแน่นกล้ามจนเป็นรอยเล็บยาว
ริมฝีปากที่ก่อนหน้าฉกชิงลมหายใจและลุกล้ำจนบวมช้ำกำลังยิ้มมุมปากจนหัวใจคนมองเต้นแรง
เสียงครางเครือและเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นไปทั่วห้อง ส่วนปลายแกนกายเล็กปริ่มน้ำใส
ปาร์ค
ชานยอลยังคงกระแทกอย่างไม่ปราณีร่างกายเขาสักนิด ผู้ชายที่เคยอ่อนโยนเมื่อหลายปีก่อนมันตายไปแล้วหรือไง
ยิ่งบอกให้ช้าลงอีกคนก็ยิ่งเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น
ส่วนปลายความเป็นชายกระทบกับจุดกระสันเขาไม่หยุดยิ่งจุดไหนที่ทำให้แบคฮยอนสั่นไหวหรือเสียอาการอีกคนก็จะยิ่งเล่นงานมัน
เพดานสีขาวคือจุดยึดสายตาเดียวที่แบคฮยอนมองเห็น
ไม่รอให้คนตัวเล็กหลบสายตานาน
ล็อคปลายคางอีกคนให้สายตาประสานกันก้มลงบดขยี้ริมฝีปากคนปากแข็งให้เข็ด สะโพกแกร่งลดจังหวะลงแต่จงใจดึงท่อนกายออกแล้วกระแทกเข้ามาแรง
ๆ ที่จุดเสียวซ้ำแล้วซ้ำเล่า
กระทั่งคนใต้ร่างตัวสั่นระริกหลับตาปี๋สะบัดหน้าเชิดขึ้นครางเสียงสั่นท่อนกายเล็กปลดปล่อยความน่าอายออกมาเลอะทั้งหน้าท้องตัวเองและหน้าท้องแกร่งที่บดเบียดแนบแน่น
ชานยอลปล่อยให้เขาหายใจเพียงแค่ไม่กี่วินาทีก็เริ่มขยับกายอีกครั้ง
“ดะ
เดี๋ยว— อ๊า”
บิดกายเร่าหนีความเป็นชายร้ายกาจที่กำลังทำให้เขาเสียศูนย์อีกครั้ง
เสียงครูดของเล็บกับโซฟาดังหลอนในโสตประสาทเขาไปหมด จนแทบจะหายใจไม่ทันอยู่แล้ว
“ฮ่ะ..
อ๊า อ๊า!”
ดันเรียวขาทั้งสองข้างขึ้นจนชิดอกเผยให้เห็นส่วนที่เชื่อมกันชัดเจนแล้วจงใจกระแทกถี่รัวอยู่พักใหญ่กระทั่งน้ำรักฉ่ำแฉะฉีดพ่นเข้าไปในกายอีกคนทุกหยาดหยด
โน้มตัวลงไปดูดดึงริมฝีปากเยลลี่ก่อนจะแลบเลียหยดน้ำใสที่เลอะมุมปาก
มือเรียวผลักอกอีกคนออกไป
ชานยอลแกล้งกระทั้นเข้าหาจนได้ยินเสียงครางหวาน ถึงได้ยอมขยับออกมาแต่โดยดีเพราะสงสารเรียวขาขาวที่สั่นระริกหรอกนะ
ร่างกายใหญ่โตยันเข่าให้เก็บความเป็นชายเข้าที่หากแต่ยังคงแทรกอยู่ระหว่างขาอีกคนที่กำลังพยายามจะเบียดมันเพื่อปกปิดส่วนหน้าอาย
“อาบน้ำกันดีกว่า”
“นี่!
ไม่ต้องอุ้ม!”
คนตัวเล็กที่อยู่ในท่าเจ้าสาวร้องเสียงหลงรัวมือทุบแผ่นอกอีกคนเพื่อให้ปล่อย
ชานยอลวางอีกคนบนเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าและคนตัวเล็กก็ยังไม่หยุดดิ้นยุกยิกจนเขาต้องรูดซิบกางเกงลงจนเห็นส่วนนั้นที่ซ่อนในอันเดอร์แวร์แล้วขู่ด้วยสายตา
ก็ลองดู มันพร้อมจะตื่นทุกเมื่ออยู่แล้วถ้าอยู่กับแบคฮยอน
จะปราบพยศให้เข็ด
คนตัวเล็กนิ่งไปแต่ก็ยังไม่หยุดฟึดฟัดเพราะไอ้ผู้ชายร่างยักษ์นี่ยังคงแทรกอยู่กลางหว่างขาทั้ง
ๆ ที่เขายังโป๊อยู่ อีกคนไม่สะทกสะท้ายเอาแต่เท้าคางมองแล้วอมยิ้ม
“มองทำไมนักหนา”
“คุณน่ารักไง
มองไม่ได้เหรอ.. ขี้หวงจัง”
“ไม่ได้!”
“คุณ”
“อะไร”
“มีแฟนรึยัง”
“พึ่งจะมาถามเหรอ
ถ้าบอกว่ามีแล้วเหตุการณ์เมื่อกี้จะแก้ไขอะไรได้หรือไง”
“แสดงว่าไม่มี” พยักหน้าพอใจกับคำตอบที่รู้อยู่แล้ว เรื่องแบคฮยอนตลอดหลายปีที่ผ่านมาชานยอลรับรู้มันทั้งหมดอยู่แล้ว
“เค้าก็ไม่มีนะ”
“บอกทำไม
ไม่ได้ถามสักหน่อย”
“ใจคุณอยากรู้”
“มั่ว”
“โดนรู้ทันแล้วเขินอะดิ”
“ปาร์ค
ชานยอล!”
“กลับมาคบกันไหม”
“...เพ้อเจ้อ”
สวนกลับด้วยความรู้สึกที่สั่นไหว “แค่มีอะไรกันแค่นี้ต้องกลับไปคบด้วยรึไง”
“เค้าอยากรับผิดชอบนะ”
“ไม่ต้องมาพูดเลย” แบคฮยอนปัดมืออีกที่ยกมาจับแก้มตัวเองออก
รับผิดชอบอะไรป่านนี้
หลายปีก่อนยังทำเขานอนร้องไห้ขี้มูกโป่งเพราะคิดถึงอยู่เลย
“คุณไม่รักเค้าแล้วเหรอ”
“…” แบคฮยอนนิ่งไปเพราะสรรพนามคุ้นเคยที่หลอกล่อให้เขาใจอ่อน แต่แบคฮยอนจะไม่รักคนใจร้ายแล้ว
ไม่รักหรอกไอ้คนที่ทำให้เขาเริ่มใหม่กับใครไม่ได้นั่นน่ะ ไม่อยากรักเลยสักนิด “...ไม่”
“แบคฮยอน”
คนตัวเล็กดันแผ่นอกอีกคนให้ถอยออกไปก่อนจะขยับลงมายืนข้างล่าง
ขยับปากพูดเสียงแผ่วที่ได้ยินแค่ตัวเอง
“เค้าไม่อยากรักคุณแล้ว..”
พูดจบก็หมุนตัวเตรียมจะเดินหนีไปจากบรรยากาศที่เริ่มอึดอัดนี้เสียที
แบคฮยอนไม่อยากรู้สึกอีกแล้ว เขาอ่านใจอีกคนไม่ออกหรอกว่าแค่ต้องการมาแกล้งหรืออะไร
เพราะที่อยากได้ตอนนี้ก็ให้ไปหมดแล้ว
ถึงจะเอาแต่บอกตัวเองว่าอย่านะ
อย่านะ.. อย่าตกหลุมรักอีกนะ.. แต่ปาร์คชานยอลก็ยังคงเป็นคนที่ทำให้เขาใจสั่นได้เสมอ
ไม่ว่าจะเมื่อหลายปีที่แล้วหรือแม้แต่วินาทีนี้ก็ไม่เคยเลิกรู้สึกได้เลย
มือหนาคว้าข้อมืออีกคนดึงรั้งเข้ามาชิดแผ่นอกตวัดท่อนแขนโอบรอบเอวบางไว้แน่นสบสายตาที่สั่นไหว
และสายตาจริงจังของอีกคนก็ทำให้คนในอ้อมแขนชะงักอีกครั้งแล้ว เพราะมันเหมือนกำลังบอกเป็นนัยว่า
ชานยอลจะไม่ปล่อยให้แบคฮยอนหายไปไหนอีกแล้ว
และอีกสิ่งที่คนตรงหน้าเขาต้องรู้
และอีกสิ่งที่คนตรงหน้าเขาต้องรู้
ความบังเอิญในวันนี้น่ะไม่มีจริงหรอกแบคฮยอน
“ไม่รักกันจริง
ๆ น่ะเหรอแบคฮยอน”
“...”
“หมายถึงเมื่อก่อนก็ไม่เคยรักเลยใช่ไหม”
“ไม่ใช่นะ!
คือเค้าไม่ได้--” คนตัวเล็กโพร่งขึ้นมาก่อนจะต้องเม้มริมฝีปากแน่นเพราะเห็นรอยยิ้มร้ายที่เหมือนจะรู้ทันของอีกคน
ตกหลุมผู้ชายคนนี้อีกแล้ว
“จะบอกว่าไม่ได้ไม่รักเหรอ”
ชานยอลยิ้มแป้นกระชับวงแขนที่กอดอยู่แน่นขึ้น
“บอกว่าไม่รักต่างหาก!”
“ถ้าคุณยังเอาแต่พูดว่าไม่รักอีกครั้งนะ...”
หรี่ตาลงมองอีกคนด้วยสายตาจริงจังแกมขู่
“ทำไม
คุณจะทำอะไร”
“เค้าจะจีบคุณใหม่”
“…”
“จีบจนกว่าคุณจะพูดว่ารักเค้าเหมือนเดิม เข้าใจไหมแบคฮยอน”
(ยังไม่) END
-------------------------------------------------------------------------
TALK
อัพเดทพาร์ท 2 แล้วน้า > < ลิ้งใต้เธรดเลยค่า
ถ้าชอบก็อย่าลืมแวะมาให้กำลังไตกันได้ที #mustCByou นะค้าบ
แล้วจามากาวอีกบ่อย ๆ ;-;